Kotlin

Kotlin เป็นผลงานของบริษัท JetBrains บริษัทซอฟต์แวร์จากยุโรปตะวันออก (สำนักงานใหญ่อยู่ที่สาธารณรัฐเช็ก แต่ก็มีสำนักงานอยู่ในรัสเซียด้วย) ซึ่งเรารู้จักบริษัทนี้ในฐานะผู้สร้าง IntelliJ IDEA ซอฟต์แวร์ IDE ชื่อดังในโลกของ Java

JetBrains เห็นข้อจำกัดของภาษา Java (ที่ถือเป็นคนละส่วนกับ Java Platform และ JVM) จึงพัฒนาภาษาโปรแกรมตัวใหม่ขึ้นมาเพื่อใช้แทนภาษา Java แต่ยังคอมไพล์เป็นไบต์โค้ดเพื่อรันบน JVM อยู่เช่นเดิม

เนื่องจากทีมของ JetBrains ที่พัฒนาภาษานี้อยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย จึงนำชื่อของเกาะ Kotlin Island ที่อยู่ตรงอ่าวหน้าเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มาตั้งเป็นชื่อภาษานั่นเอง (พิกัดเกาะ Kotlin ใน Google Maps)

ภาษา Kotlin ถือกำเนิดขึ้นในปี 2011 และค่อยๆ ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในโลกของนักพัฒนาสาย Java เคียงคู่ไปกับภาษาตระกูล JVM ตัวอื่นๆ เช่น Groovy, Clojure, Scala

แนวคิดของ Kotlin

Andrey Breslav หัวหน้าทีมออกแบบภาษา Kotlin ให้สัมภาษณ์ว่าตั้งใจออกแบบภาษา Kotlin ขึ้นมาเป็นภาษาใหม่เพื่อใช้แทนภาษา Java ที่มีจุดอ่อนหลายอย่าง แต่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้มากนักเพราะต้องทำ backward compatibility

ตอนแรก ทีมงาน JetBrains สำรวจว่ามีภาษาโปรแกรมที่ตรงกับความต้องการหรือไม่ และพบว่าในท้องตลาดมีเพียง Scala เท่านั้นที่ใกล้เคียงที่สุด แต่ปัญหาของ Scala คือคอมไพล์ช้าและเรียนรู้ยาก ส่งผลให้ทีมงานตัดสินใจสร้างภาษาใหม่ที่เข้าใจง่ายกว่าขึ้นมาแทน

แนวคิดของ Kotlin คือเข้ากันได้ 100% กับแพลตฟอร์ม Java เพื่อใช้ประโยชน์จากไลบรารี เฟรมเวิร์ค API และเครื่องมือจำนวนมากที่มีอยู่แล้วของโลก Java และสามารถผสมผสานโค้ดภาษา Java/Kotlin ได้ เป้าหมายของ Kotlin คือนำมาใช้แทน Java ในโครงการใหม่ๆ โดยรักษาโค้ด Java ในโครงการเก่าที่เขียนไปแล้ว แต่ก็ยังสามารถให้มันทำงานร่วมกันได้

Kotlin เป็นภาษาแบบ statically-typed หรือต้องประกาศชนิดของตัวแปรอย่างชัดแจ้งเสมอ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยจากปัญหาหน่วยความจำ (type safety) และประสิทธิภาพ ต่างไปจากภาษา Groovy, Jython, Ruby ที่เป็น dynamically-typed

จุดเด่นอีกประการของ Kotlin เหนือ Java คือสั้นกระชับกว่า ตัวเลขของ JetBrains ระบุว่าสามารถลดจำนวนโค้ดลงได้ 40% ถ้าเปลี่ยนโปรแกรมเดียวกันจาก Java เป็น Kotlin

Cr. 1